โรคไข้เลือดออก เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค ดังนั้น นอกจากการดูแลสถานที่โดยรอบไม่ให้มีน้ำขัง สำหรับเป็นที่เพาะพันธุ์ของยุงลายแล้ว การรู้จักถึงอาการ และมีวิธีรักษาไข้เลือดออกที่ดีและเหมาะสม จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดการแพร่เชื้อและลดอัตราการเกิดโรคไข้เลือดออกในทุกช่วงวัยได้อีกด้วย
รู้จักอาการของโรคไข้เลือดออก
สำหรับอาการไข้เลือดออกในเบื้องต้น มักไม่ได้มีความรุนแรงมากนัก ส่วนใหญ่จะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว หรืออาจพบจุดเลือดที่ผิวหนัง เจ็บชายโครงด้านขวา แต่เมื่อผ่านไปสักระยะ ความรุนแรงของอาการก็จะเพิ่มมากขึ้น โดยอาจมีการคลื่นไส้ อาเจียน และมีภาวะความดันโลหิตต่ำร่วมด้วย ซึ่งการรักษาโรคไข้เลือดออกไม่มีวิธีที่เฉพาะเจาะจง แต่สามารถรักษาตามอาการได้ หากมีอาการเพียงเล็กน้อยไม่รุนแรง ก็สามารถพักฟื้นได้ที่บ้าน แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไข้เลือดออกรุนแรง ก็ควรเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล กับแพทย์เฉพาะทาง จะเหมาะสมมากกว่า
ไข้เลือดออกเป็นได้กี่ครั้ง? ต้องรักษากี่วันถึงหาย?
รู้หรือไม่ โรคไข้เลือดออกสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก โดยการติดเชื้อไวรัสไข้เลือดออกในครั้งต่อไป มีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรงมากกว่าการติดเชื้อในครั้งแรก ซึ่งการรักษาไข้เลือดออก ยังไม่มียาแก้โรคที่แน่นอน จึงทำได้เพียงบรรเทาอาการเท่านั้น เพื่อประคับประคองร่างกายให้กลับสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด โดยอาจใช้เวลาประมาณ 2-7 วัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการแต่ละคน
แนวทางการรักษาโรคไข้เลือดออกเบื้องต้น
1. หากพบว่าตัวเองมีอาการและต้องการวิธีรักษาไข้เลือดออกให้หายเร็ว สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำได้ดังนี้
สิ่งที่ควรปฏิบัติ:
- ขอคำแนะนำจากแพทย์ที่ดูแลท่าน
- เข้ารับการวินิจฉัยเพื่อตรวจว่าเป็นโรคไข้เลือดออกหรือไม่
- ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมาก
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานยาพาราเซตามอล (Acetaminophen) เพื่อลดไข้ ลดอาการปวดศีรษะและอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ:
- การเพิกเฉย หรือไม่สนใจอาการที่บ่งบอกว่าเป็นโรคไข้เลือดออกรุนแรง เช่น ปวดท้องรุนแรง อาเจียน และมีเลือดออก
- ไม่ควรรับประทานยาแอสไพริน หรือ ไอบูโพรเฟน เนื่องจากเสี่ยงทำให้เลือดออก
2. วิธีดูแลผู้ป่วยไข้เลือดออกที่สามารถทำได้ที่บ้าน สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำได้ดังนี้
สิ่งที่ควรปฏิบัติ:
- หาทางลดไข้ โดยอาจใช้วิธีรับประทานยาพาราเซตามอล (Acetaminophen) หรือใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเพื่อเช็ดตัว
- ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมาก
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- หมั่นติดตามดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด หากอาการมีความรุนแรงขึ้น ควรเข้าพบแพทย์โดยด่วน
โรคไข้เลือดออก ในระยะเริ่มแรกจะมีอาการที่ไม่รุนแรง และจะเริ่มรู้สึกดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ ดังนั้น นอกจากมีการรักษาไข้เลือดออกในเบื้องต้นให้เร็วที่สุดแล้ว พยายามอย่าปล่อยให้ยุงกัดโดยเฉพาะคนที่มีอาการป่วยอยู่ เพราะถ้าถูกยุงกัดอาจแพร่เชื้อต่อไปยังคนอื่นได้ และพึงระลึกเสมอว่าการเคยเป็นโรคไข้เลือดออกมาแล้วไม่ได้หมายความว่าท่านจะไม่เป็นโรคนี้ซ้ำอีก