รู้ทันพื้นที่เสี่ยงไข้เลือดออก
สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในพื้นที่ที่คุณอยู่
ข้อมูลเดือน
ประจำสัปดาห์การระบาดที่
ทุกสถานที่ล้วนเป็นพื้นที่เสี่ยงโรคไข้เลือดออก
ตรวจสอบสถิติผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในพื้นที่ของคุณได้ที่นี่
ข้อมูลเดือน
ประจำสัปดาห์การระบาดที่
ทุกสถานที่ล้วนเป็นพื้นที่เสี่ยงโรคไข้เลือดออก
ตรวจสอบสถิติผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในพื้นที่ของคุณได้ที่นี่
สถานการณ์ไข้เลือดออก ในประเทศไทย ปี
การระบาดของโรคไข้เลือดออกในประเทศไทย เริ่มมีการรายงานผลมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 ซึ่งในปัจจุบันนี้ ไข้เลือดออกก็ยังคงเป็นหนึ่งในโรคร้ายที่ยังคงพรากชีวิตผู้คนอย่างต่อเนื่อง
ตัวเลขผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสมในไทยตลอดปี พ.ศ. จะมีรายละเอียด ดังนี้
กลุ่มผู้ป่วยและเสียชีวิตสะสมปี จากไข้เลือดออก แบ่งตามกลุ่มอายุ
หากจัดกลุ่มผู้ป่วยและเสียชีวิตจากไข้เลือดออกในปี พ.ศ. ตามอายุ จะมีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า กลุ่มผู้มีอายุ 5 - 14 ปีจะเป็นกลุ่มเสี่ยงโรคไข้เลือดออกในประเทศไทยมากที่สุด ทั้งนี้เนื่องจากเด็กเล็กส่วนมากมักชอบเล่นสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งและอาจถูกยุงลายกัดได้โดยไม่รู้ตัว ทั้งยังอาจไม่รู้จักวิธีการป้องกันตนเองจากยุงลายอย่างเหมาะสม
ในทางตรงข้าม กลุ่มอายุที่พบอัตราเสียชีวิตสูงสุดจะอยู่ที่ช่วงอายุ 45 - 54 ปี และ 65 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นกลุ่มที่สุขภาพร่างกายเริ่มอ่อนแอลง
ไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อที่รักษาได้ตามอาการ แต่หากเกิดภาวะแทรกซ้อนในขณะที่ได้รับเชื้อไวรัสเดงกีก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้เฉลี่ย 0.3% - 1% ก็ตาม โดยภาวะแทรกซ้อนที่พบเจอในขณะที่เป็นไข้เลือดออกจะประกอบไปด้วยภาวะตับอักเสบ ภาวะไตวาย และภาวะอวัยวะในร่างกายล้มเหลว
นอกจากนี้ โรคประจำตัวและภาวะน้ำหนักเกินก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สุขภาพอ่อนแอ และเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่ทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน ที่สำคัญ การใช้ยากลุ่ม NSAIDs* ที่ส่งผลต่อระบบเลือดภายในร่างกาย ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความรุนแรงของไข้เลือดออกได้ โดยการรับประทานยากลุ่ม NSAIDs* ในขณะเป็นไข้เลือดออกจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะเลือดออกในระบบทางเดินอาหารได้
(อ้างอิง: ดร. เภสัชกรหญิง นงลักษณ์ สุขวาณิชย์ศิลป์. (2562). ยาแก้ปวดข้อ ข้ออักเสบ-กลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) สืบค้น 9 ธันวาคม 2565 จาก https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/472ปวดข้อกับยาเอ็นเสด(NSAIDs)/)
พื้นที่เสี่ยงไข้เลือดออก…อยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด
ทุกบริเวณรอบตัวสามารถเป็นพื้นที่เสี่ยงไข้เลือดออกได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภายในบ้าน รอบบริเวณที่อยู่อาศัย และทุกสถานที่รอบตัว เนื่องจากยุงลายเป็นแมลงที่สามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว เพียงมีพื้นที่น้ำขังก็สามารถขยายพันธุ์ได้ในทันที
นอกจากนี้ ยุงลายมักอาศัยอยู่ตามพื้นที่มืด อับชื้น ทั้งยังมีขนาดเล็กและมีสีที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ทำให้ยากต่อการสังเกต ซึ่งหลายคนเองก็อาจจะไม่รู้ตัวว่าโดยยุงลายกัด
เป็นไข้เลือดออกรอบสอง อันตรายจริงไหม?
ไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อที่ยุงลายตัวเมียเป็นพาหะ โดยเชื้อไวรัสเดงกีที่ได้รับมาจากบุคคลอื่นจะฟักตัวอยู่ในต่อมน้ำลายและกระเพาะของยุง ซึ่งหากใครโดนยุงที่มีเชื้อไวรัสกัดเข้าก็จะมีโอกาสเป็นไข้เลือดออกได้
โดยส่วนใหญ่แล้ว หากรักษาไข้เลือดออกจนหาย ร่างกายมักจะสร้างภูมิคุ้มกันที่สามารถต้านทานเชื้อไวรัสได้ แต่หากกลับมาเป็นซ้ำสอง โรคไข้เลือดออกก็มีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้น เนื่องจากเชื้อไวรัสที่ได้รับมาใหม่จะต้องมีความแข็งแรงมากพอที่จะทำลายภูมิคุ้มกันเข้ามาได้
ป้องกันไข้เลือดออกได้อย่างไร?
พื้นที่เสี่ยงไข้เลือดออก คือ พื้นที่ที่มียุงลาย ดังนั้น ทุกคนจึงควรทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายรอบบ้านและแหล่งที่อยู่อาศัย เช่น กำจัดแหล่งน้ำขัง ทั้งภายในและนอกบริเวณที่อยู่อาศัยทั้งหมด
หากมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในชุมชน ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐให้มาพ่นควัน หรือกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอย่างถูกต้อง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด และป้องกันไม่ให้บ้านของคุณกลายเป็นพื้นที่ระบาดไข้เลือดออก
นอกจากนี้ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคได้ ทุกท่านสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและวางแผนการฉีดวัคซีนที่เหมาะสมต่อไป