หลาย ๆ คนที่เคยถูกยุงกัด อาจสังเกตเห็นว่าตัวเองมีอาการคันบริเวณที่ถูกกัด หรือแม้แต่มีตุ่มแดงเกิดขึ้น ซึ่งหากอยากรู้ว่าอาการคันหลังจากยุงกัดเกิดจากอะไร ? หมายถึงอาการแพ้ยุงหรือเปล่า ? บทความนี้มีคำตอบมาให้แล้ว พร้อมวิธีการดูแลตัวเองหลังถูกยุงกัด และวิธีป้องกันยุงกัดเพื่อป้องกันอาการแพ้ และโรคที่มียุงเป็นพาหะได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยุงกัดแล้วคัน เกิดจากอะไร ?[4]
อาการคันหลังจากยุงกัดไม่ได้แปลว่าแพ้ยุงเสมอไป โดยอาการคันหลังยุงกัดเกิดจาก 2 ปัจจัยนี้เป็นหลัก
1. สารโปรตีนในน้ำลายยุง
เมื่อยุงกัด และปล่อยน้ำลายลงบนผิวหนัง สารโปรตีนในน้ำลายนั้นจะทำปฏิกิริยากับร่างกายมนุษย์
2. ร่างกายปล่อยฮีสตามีนเพื่อต่อสู้กับสารโปรตีน กระตุ้นให้เกิดอาการคัน
เมื่อร่างกายตรวจพบสารโปรตีนจากน้ำลายยุง ระบบภูมิคุ้มกันจะปล่อยสารฮีสตามีนออกมาเพื่อต่อสู้กับสารนั้น ซึ่งฮีสตามีนนี่เองที่ทำให้เกิดอาการคันและบวมแดงบริเวณที่ถูกยุงกัด
โดยปกติแล้ว อาการคันจากรอยยุงกัดจะเริ่มปรากฏในเวลาประมาณ 20 นาทีหลังจากถูกกัด และอาการคัน รวมถึงรอยบวมจะค่อย ๆ ยุบลงภายใน 1-2 วัน แต่สำหรับบางคนที่แพ้น้ำลายยุงอาจมีอาการรุนแรงกว่าการคันทั่วไป เช่น บวม แดง และคันมาก[3]
อาการแพ้ยุงเป็นอย่างไร ?[3]
อาการแพ้ยุง มักมีความรุนแรงกว่าอาการคันปกติหลังยุงกัด สังเกตได้จากอาการบวม แดง คัน ร้อนมากกว่าปกติ และบวมนานหลายวัน อาจเป็นตุ่มนูนแดง หรือเป็นลมพิษ
สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้รุนแรง นอกจากมีอาการบวมแดง คันรุนแรง บริเวณถูกกัดแล้ว ยังอาจมีผื่นลามไปทั่วร่างกาย บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก คอ หรือลิ้น หายใจลำบาก คออักเสบ ซึ่งเป็นอาการของภาวะช็อกแพ้ที่อันตรายถึงชีวิต ดังนั้น หากมีอาการแพ้รุนแรงควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที โดยแพทย์อาจรักษาด้วยการฉีดยาแก้แพ้เพื่อหยุดยั้งปฏิกิริยาการแพ้
อาการแพ้ยุงรักษาอย่างไร ? : วิธีการดูแลตัวเองเมื่อมีอาการแพ้หลังถูกยุงกัด[2]
หากถูกยุงกัดแล้วมีอาการแพ้ บวม หรือคัน ดังนั้นจึงควรดูแลตัวเองตามวิธีต่าง ๆ เหล่านี้
1. ทำความสะอาดผิวบริเวณที่โดนยุงกัด
หลังถูกยุงกัด ควรทำความสะอาดบริเวณที่ถูกยุงกัดด้วยการล้างด้วยสบู่ และน้ำอุ่น เพื่อกำจัดน้ำลายยุงที่อาจตกค้าง หรือหลงเหลืออยู่บนผิวหนัง ซึ่งจะช่วยลดอาการแพ้ หรือคันได้
2. ประคบเย็นบริเวณที่ถูกยุงกัด
การใช้ผ้าเย็นหรือถุงน้ำแข็งประคบบริเวณที่ถูกกัด ประมาณ 10-15 นาที จะช่วยลดอาการบวมและคันหลังถูกยุงกัดได้ และลดความเสี่ยงการเกิดแผลบนผิวหนังจากการเกาบริเวณแผลยุงกัดได้ด้วย
3. ทายาแก้แพ้
หากมีอาการแพ้ หรือคันหลังยุงกัด อาจใช้ยาทาแก้แพ้ เช่น ยาที่มีส่วนผสมของ Calamine หรือ Menthol ทาบริเวณที่ถูกยุงกัดได้ เพราะส่วนประกอบเหล่านี้จะช่วยลดอาการคันได้
4. ใช้ยาแก้แพ้ชนิดรับประทาน กรณีมีอาการคันมาก บวมแดง ลามไปบริเวณอื่น
หากมีอาการคัน บวมแดงมาก หรือมีผื่นขึ้น อาจกินยาแก้แพ้ชนิดรับประทานได้เพื่อลดอาการแพ้ก่อนไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและรักษาต่อไป
5. หลีกเลี่ยงการเกา เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้คัน บวม และอาจเกิดแผลเป็น
เมื่อมีตุ่มแดงขึ้นและคัน คนส่วนใหญ่มักจะเกาบริเวณที่เป็นแผล ซึ่งอาจก่อให้เกิดแผลเป็นที่ผิวหนังได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการเกา
6. สังเกตอาการ หากมีอาการรุนแรงมากขึ้น ควรไปพบแพทย์
คอยสังเกตอาการเสมอหลังถูกยุงกัด หากมีอาการแพ้ บวม และคันรุนแรงขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
วิธีป้องกันยุงกัด ลดความเสี่ยงอาการคัน และแพ้ยุง[1]
เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้ยุง หรือคัน และบวมจากการถูกยุงกัด สามารถป้องกันยุงกัดได้ด้วยวิธีเหล่านี้
- ใช้มุ้ง ยากันยุง
หากต้องอยู่ในบริเวณที่มียุงชุกชุมมาก ควรป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกยุงกัดด้วยการกางมุ้งกันยุง รวมถึงการใช้ยากันยุงรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบสเปรย์ แบบโลชั่น หรือแม้แต่ยาจุดกันยุง เพื่อไล่ยุงในบริเวณใกล้เคียง และป้องกันไม่ให้ยุงกัดที่ผิวหนังของตนเอง
- สวมเสื้อผ้ามิดชิด
การสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด เลือกใส่เสื้อแขนยาว ขายาว จะสามารถลดความเสี่ยงที่จะถูกยุงกัดได้ เพราะหากมีเสื้อผ้าปกคลุมผิวอยู่ก็จะทำให้ยุงไม่สามารถกัดทะลุถึงผิวหนังที่อยู่ใต้ร่มผ้าได้
- กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยป้องกันยุงกัด และโรคที่มียุงเป็นพาหะได้ดีที่สุดก็คือ การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงนั่นเอง ซึ่งการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงนั้นทำได้โดยการกำจัดแอ่งน้ำ แหล่งน้ำขังต่าง ๆ และหากมีถังน้ำ อ่างน้ำ ควรปิดฝาไว้เสมอเพื่อป้องกันไม่ให้ยุงวางไข่
เมื่อรู้จักอาการแพ้ยุง อาการคันหลังยุงกัด รวมถึงวิธีรับมือกับอาการเหล่านั้นแล้ว ต้องไม่ละเลยการป้องกันยุงกัด และการแพร่พันธุ์ของยุงซึ่งเป็นพาหะโรคไข้เลือดออก ด้วยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ และฉีดวัคซีนไข้เลือดออกทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ สำหรับใครที่อยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก สามารถศึกษาข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก และภัยจากยุงเพิ่มเติมได้ที่ Know Dengue
VV-MEDMAT-113822: DEC 2024
ข้อมูลอ้างอิง
- แพ้น้ำลายยุงคืออะไร มีวิธีรักษาและป้องกันอย่างไร. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 จาก https://www.kalasinnews.com/lifestly/16022/
- แพ้ยุง อาการ วิธีบรรเทา และวิธีป้องกัน. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 จาก https://www.exta.co.th/mosquito-bite/
- ผื่นแพ้ยุง: รักษา ป้องกันอย่างไร?. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 จาก https://www.si.mahidol.ac.th/Th/healthdetail.asp?aid=944
- ยุงกัด แพ้ยุง ยิ่งเกายิ่งคัน รู้สาเหตุและอาการ พร้อมวิธีบรรเทาอาการคัน. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 จาก https://www.eucerin.co.th/skin-concerns/atopic-dermatitis/skeeter-syndrome